นายกฯกำชับครม.ยึดกระแสดำรัสในหลวงที่ทรงเน้นย้ำความซื่อสัตย์สุจริตถึง 5 ครั้ง ยึดกฎเหล็ก 9 ข้อเหมือนเดิม ห้ามทัวร์นอกระหว่างสมัยประชุมสภาฯ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และถือเป็นนัดแรกของรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 5 คนนั้น บรรยากาศที่ประชุมเป็นไปอย่างคึกคัก เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.16 น. ทั้งนี้ ก่อนที่จะเริ่มการประชุม บรรดา ครม.เก่าต่างเดินเข้าไปทักทาย ยกมือไหว้แสดงความยินดีต้อนรับรัฐมนตรีใหม่ มีการพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 5 คนอย่างเป็นทางการ และยังได้กำชับให้รัฐมนตรีทั้งรัฐมนตรีใหม่และรัฐมนตรีเก่า ให้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงรับสั่งถึงเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต ที่ได้ทรงย้ำถึง 5 ครั้ง เพื่อให้นำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างจริงจัง เพราะถ้าทำไม่ได้ไม่ใช่แค่เกิดความเสียหายเฉพาะตัวแต่จะเสียหายทั้งรัฐบาลและประเทศชาติ นายกฯยังได้เน้นย้ำเรื่องกฎเหล็ก 9 ข้อด้วยว่า ยังบังคับใช้กับรัฐมนตรีทุกท่านเหมือนเดิมตามปกติ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายงานให้นายไตรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯรับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจทั้งหมดที่อยู่ในความรับผิดชอบของ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกฯที่ถูกปรับไปรับตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ ซึ่งที่ประชุมก็เห็นชอบ
ขณะที่นายไตรรงค์ กล่าวแสดงความมั่นใจว่า จะสามารถสานต่องานของนายกอร์ปศักดิ์ ได้ และจะเน้นการประสานงานกับกระทรวงด้านเศรฐกิจที่เกี่ยวข้อง และจะขอมอบให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ไปดูแลงานนโยบายบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่นายไตรงค์ เคยทำงานกับนายศุภชัย พานิชภักดิ์ ตั้งแต่สมัยนายศุภชัย เป็นรมว.พาณิชย์ ซึ่งทำให้นางพรทิวาที่นั่งฟังอยู่ยิ้มแย้มอย่างสบายใจ และพร้อมที่จะไปปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้บรรยากาศการทำงานร่วมกับรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจจะราบรื่นขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในวันที่ 21 ม.ค. เวลา 11.00 น. ซึ่งก็จะมีการพิจารณากันทั้งการยื่นกระทู้ ถาม การพิจาณราร่างกฎหมายทั่วไป และการพิจาราร่างกฎหมายตามรัฐธรรมนูญที่ค้างอยู่ในระเบียบวาระประมาณ 10 ฉบับ ส่วนการประชุมวุฒิสภาจะมีขึ้นในวันที่ 25 ม.ค. เวลา 10.00 น.
ทั้งนี้นายกฯได้กำชับให้รัฐมนตรีทุกท่านต้องให้ความสำคัญกับการประชุมสภาฯ ต้องเข้าไปตอบกระทู้และร่วมพิจารณากฎหมายสำคัญ ๆ หากไม่จำเป็นไม่ควรเดินทางไปต่างประเทศในระหว่างสมัยประชุม แต่จะอนุญาตให้เฉพาะกรณีที่มีการเดินทางไปร่วมประชุมระหว่างประเทศที่จำเป็นเท่านั้น
" ต่อไปรัฐมนตรีท่านใดจะมาขอไปต่างประเทศ ผมจะไม่อนุมัติแล้วนะ ยกเว้นแต่จะต้องมีการไปประชุมเท่านั้น โดยผมจะพิจารณาเป็นรายบุคคล "รายงานข่าวอ้างคำกล่าวของนายกฯ
ขณะที่นายสุเทพ ได้กล่าวปิดท้ายแจ้งต่อที่ประชุม ครม.ก่อนจะเลิกการประชุมว่า รัฐบาลมีนโยบายจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี พิธีบรมราชาภิเษกในวันฉัตรมงคลตลอดทั้งปี 2553 จึงขอให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงให้ความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการจัดงานในครั้งนี้เอย่างพร้อมเพรียงด้วย เพื่อแสดงความจงรักภักดิ์ดี สร้างความสมานขึ้นในชาติ โดยรัฐบาลเป็นเจ้าภาพ
ครม.ช่วยเหลือเฮติเพิ่มแสนเหรียญเชิญร่วมบริจาค

ครม.อนุมัติเงิน 1 แสนเหรียญ พร้อมข้าว 2 หมื่นตัน แพทย์ ช่างก่อสร้าง พร้อมเปิดบัญชีธนาคารเชิญคนไทยร่วมบริจาคช่วยเหลือชาวเฮติ" "อภิสิทธิ์"หงุดหงิดโดนด่าบ่นตามระเบียบช่วยได้แค่2หมื่นเหรียญ
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 19 ม.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติเงิน 100,000 เหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 3,300,000 บาท) เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ประเทศเฮติที่ประสบปัญหาภัยพิบัติ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอมา และจะมีการส่งข้าวสารเข้าไปช่วยเหลือด้วยโดยเบื้องต้นจำนวน 20,000 ตัน รวมถึงจะส่งบุคลากรเข้าไปช่วยโดยมีทั้งแพทย์ ช่าง และช่างก่อสร้าง ซึ่งจำเป็นต้องให้กระทรวงการต่างเป็นผู้ประสานในรายละเอียดของการบริหาร จัดการ เพื่อให้การส่งความช่วยเหลือตรงกับความต้องการของเฮติ และไม่เป็นภาระในการปฏิบัติการ ซึ่งต้องประสานงานผ่านสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ รัฐบาลจะเป็นผู้ประสานงานในการเปิดศูนย์รับบริจาคเงินช่วยเหลือ ซึ่งทำได้ 2 ทาง คือ บริจาคผ่านทางบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี " รวมน้ำใจชาวไทยช่วยผู้ประสบภัยเฮติ " เลขที่บัญชี 067-0-05765-7 สาขาย่อยทำเนียบรัฐบาล ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1111 และประชาชนสามารถบริจาคเงินได้ด้วยตัวเองที่จุดบริเวณลานน้ำพุ เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก ระหว่างวันที่ 20 ม.ค.- 3 ก.พ.นี้ เวลา 08.30-16.30 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งตนอยากเชิญชวนประชาชนทุกคนได้มีส่วนร่วมในการบริจาคเงินช่วยเหลือชาวเฮ ติ ทั้งนี้ ในการประสานงานเพื่อดูแลเรื่องการช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไปนั้น ครม.มอบหมายให้นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยประสานงานด้วย
เมื่อถามว่ากระทรวงการต่างประเทศรายงานเรื่องคนไทยที่อยู่ในเฮติด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีการรายงานเรื่องดังกล่าว เข้าใจว่าเรื่องการประสานงานกับคนไทยในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่มีปัญหาอะไร ส่วนกรณีที่มีคนไทย 3 คนต้องการเดินทางกลับประเทศไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานงานอยู่
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายอภิสิทธิ์ได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการช่วยเหลือเหตุธรณีพิบัติที่เฮติ ซึ่งที่ประชุม ครม.มีมติว่านอกจากการช่วยเหลือด้านการเงินแล้ว รัฐบาลไทยจะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น การส่งข้าวจำนวน 2 หมื่นตัน แพทย์และช่างสำหรับการบูรณะ ฟื้นฟู ทั้งนี้ได้มอบให้นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์กลางรับการช่วยเหลือจากภาคเอกชนและประชาชนในประเทศเพื่อส่งให้ประเทศเฮติต่อไป
นายศุภชัยกล่าวต่อว่ากระทรวงการต่างประเทศยังได้เสนอที่ประชุม ครม.โดยเห็นว่าครั้งที่ประเทศไทยประสบภัยสึนามิ ประเทศไทยได้รับความเห็นใจและความช่วยเหลือจากนานาประเทศ รวมทั้งองค์การสหประชาชาติ และองค์กรระหว่างประเทศในรูปแบบต่างๆอย่างกว้างขวาง ดังนั้นในกรณีของเฮตินั้น ประเทศไทยก็ควรเข้าร่วมกับนานาประเทศในการแสดงไมตรีจิต และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัย จึงเสนอให้ ครม.อนุมัติ 1. การบริจาคเงินช่วยเหลือในนามประเทศไทยจากค่าใช้จ่ายการให้ความช่วยเหลือแก่มิตรประเทศที่ประสบภัยพิบัติของกระทรวงการต่างประเทศ วงเงิน 1 แสนเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ครม.เคยมีมติเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2536 อนุมัติหลักการและแนวทางการดำเนินการให้ความช่วยเหลือกับมิตรประเทศที่ประสบภัยพิบัติ ได้ในวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท จึงขออนุมัติ ครม.ในการให้ช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกรอบวงเงินที่หลักเกณฑ์กำหนด
นายศุภชัย กล่าวว่า 2. ขอความเห็นชอบในหลักการให้กระทรวงการต่างประเทศหารือและประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาช่วยเหลือเพิ่มเติม ทั้ง อาหารสำเร็จรูป เวชภัณฑ์ การส่งคณะแพทย์และความช่วยเหลืออื่นๆตามความจำเป็นและเหมาะสมทั้งทางด้านกายภาพและงบประมาณ โดยขอเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายจากงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 3. ขอขยายวงเงินงบประมาณสำหรับความช่วยเหลือแก่มิตรประเทศที่ประสบภัยพิบัติของกระทรวงการต่างประเทศ จาก 10 ล้านบาท เป็น 30 ล้านบาท ในปี 2554 และให้สามารถเพิ่มการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆได้มากขึ้นอย่างทันท่วงที
สำหรับประชาชนที่ต้องการร่วมบริจาคสามารถบริจาคได้ที่ธนาคารกรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ " รวมน้ำใจชาวไทยช่วยผู้ประสบภัยเฮติ " สาขาย่อยทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-05765-7
"อภิสิทธิ์"หงุดหงิดโดนด่าบ่นตามระเบียบช่วยได้แค่2หมื่นเหรียญ
แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการหารือถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติกันอย่างกว้างขวาง ใช้เวลากว่า 20 นาที โดยรัฐมนตรีหลายคน แสดงความเป็นห่วงในชะตากรรมของประชาชนชาวเฮติ โดยช่วงหนึ่งนายอภิสิทธิ์ได้ชี้แจงเหตุที่ในตอนแรกอนุมัติเงินให้เพียง 2 หมื่นเหรียญสหรัฐ เนื่องจากระเบียบราชการกำหนดไว้ให้จ่ายได้เท่านั้น แต่หลังจากนี้จะช่วยได้อีก 1 แสนเหรียญ พร้อมกับให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆไปด้วย ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับทางเฮติว่าต้องการอะไรบ้าง ขณะที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ชี้แจงว่าขณะนี้กระทรวงได้ประสานงานเพื่อช่วยเหลือชาวเฮติโดยผ่าน 3 ช่องทางด้วยกัน คือ 1 .ศูนย์อำนวยการขององค์การสหประชาชาติในเฮติ 2 .กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กรุงวอชิงตัน และ 3 .สถานทูตไทยในประเทศแม็กซิโก
"นายกรัฐมนตรี บอกว่าได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆให้ความช่วยเหลือเฮติ ไปมากแล้ว แต่ประชาชนยังไม่รู้ว่ารัฐบาลทำอะไรไปบ้าง ขณะนี้ยังมีบริษัท ห้างร้าน ภาคเอกชนจำนวนมากที่ไม่ต้องการบริจาคผ่านช่องทางอื่น แต่อยากจะผ่านรัฐบาลมากกว่า ในช่วงนั้นเองนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เสนอตัวเป็นหัวหน้าทีมในการดำเนินการ อาจจะเห็นว่าเป็นงานที่ได้หน้า สร้างผลงานได้ง่าย แต่นายกฯไม่อนุมัติ กลับมอบหมายให้นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวกลางในการประสานภาคเอกชนทุกส่วนระดมความช่วยเหลือชาวเฮติแทน " แหล่งข่าว กล่าว
รมว.สธ.เตรียมส่งทีมแพทย์4ทีมช่วยเหลือเฮติ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเฮติ ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ได้มีมติให้ส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศเฮติ ทั้งหน่วยแพทย์ หน่วยช่าง ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมความพร้อมการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุขทั้งหมดแล้ว โดยประชุมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศในเบื้องต้น ได้เตรียมทีมแพทย์ พยาบาลไว้แล้วทั้งหมด 4 ทีม ทีมละ 5-8 คน พร้อมยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น จะเน้นทั้งการรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บ และการควบคุมโรคซึ่งมีความสำคัญมากในขณะนี้ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์มากว่า 1 สัปดาห์ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีศพผู้เสียชีวิตตามสถานที่ต่าง ๆ จำนวนมาก จึงคาดการณ์ว่าแนวโน้มอาจเกิดโรคระบาดตามมาสูง
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า การปฏิบัติงานครั้งนี้ จะคัดเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษา อาทิ ศัลยแพทย์ จากโรงพยาบาลศูนย์ 4 แห่ง คือ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี และผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรคจากกรมควบคุมโรค พร้อมเดินทางไปปฏิบัติงานทันทีที่ได้รับการประสานงานจากกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั้ง 4 ทีม จะผลัดเปลี่ยนกันไปปฏิบัติงานที่ประเทศเฮติตามระยะเวลาที่วางแผนไว้
กัมพูชาปฏิเสธไม่ส่งตัว ทักษิณ ให้ไทย

(11พ.ย.) ผู้สื่อข่าว AFP รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชา ได้ทำหนังสือถึงนักการทูตของไทยอย่างเป็นทางการในวันพุธ ปฏิเสธที่จะส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้กับไทยรายงานระบุว่า นักการทูตไทย 3 คน ได้ยื่นเอกสารขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้กับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศ กัมพูชา ในช่วงเช้าวันนี้ แต่หลังจากนั้นก็ได้รับหนังสือจากทางการกัมพูชา ยืนยันปฏิเสธข้อเรียกร้องของไทย
นายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา เปิดเผยต่อสำนักข่าว AFP ในช่วงเวลาสั้นๆก่อนเจ้าหน้าที่ทางการของทั้งสองประเทศจะแลกเปลี่ยนหนังสือ ถึงกันว่า หนังสือทางการทูตของกัมพูชาที่ตอบโต้กลับไป ไม่มีอะไรมากไปกว่าการปฏิเสธคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกโค่นอำนาจโดยการก่อรัฐประหารโดยปราศจากการสูญเสียเลือดเนื้อเมื่อ 3 ปีก่อน และต้องไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ เพื่อหลบหนีการถูกจำคุกในข้อหาคอรัปชั่น ซึ่งเขาเพิ่งจะเดินทางถึงกัมพูชาเมื่อวันอังคาร เพื่อรับตำแหน่งใหม่เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากนายกรัฐมนตรีฮุน เซน
กัมพูชาได้ประกาศว่า จะไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของไทยที่ให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี โดยระบุว่า เป็นข้อกล่าวหาที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง โดยนายฮอร์ กล่าวว่า ความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีสาเหตุมาจากการก่อรัฐประหาร เมื่อเดือนกันยายนปี 2549 ซึ่งตอนนั้นเขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนชาวไทยลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้เขาอย่างท่วมท้น ตามครรลองประชาธิปไตย
ความตึงเครียดกำลังเพิ่มสูงขึ้นระหว่างสองชาติ ที่เคยมีประวัติปะทะกันหลายต่อหลายครั้งกรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร ที่บริเวณพรมแดนติดกัน และความขัดแย้งครั้งล่าสุดนี้ กำลังจะส่งผลกระทบต่อการประชุมสุดยอดเป็นครั้งแรก ระหว่างชาติสมาชิกสมาคมอาเซียนกับประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หลังจากทั้งสองฝ่ายต่างเรียกกลับเอกอัครราชทูตก่อนหน้านี้ด้าน กระทรวงต่างประเทศของไทย ระบุว่า กำลังรอการยืนยันอย่างเป็นทางการจากสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญว่า กัมพูชาปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยนายธานี ทองภักดี รองโฆษกกระทรวงต่างประเทศ ระบุว่า ถ้าเป็นจริง ทางการไทยก็จะพิจารณาใช้มาตรการขั้นต่อไป
ด้านนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ไทยอาจจะยกเลิกสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับกัมพูชา ถ้ากัมพูชาไม่ส่งตัว พ.ต.ท. ทักษิณกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย
ก่อนหน้านั้นนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขาณุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้า การยื่นหนังสือคำร้องขอควบคุมตัวชั่วคราวและหมายจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อทางการกัมพูชาว่า หนังสือดังกล่าวถูกส่งถึงมืออุปทูตไทยที่กรุงพนมเปญตั้งแต่คืนที่ผ่านมา และจะยื่นต่อกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาวันนี้ หลังพยายามจะยื่นตั้งแต่เมื่อคืนแต่เวลาค่อนข้างดึกเกินไป
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า หลังจากยื่นหนังสือต่อกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เราจะรอดูท่าทีว่าทางกัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนหรือไม่ ซึ่งตามหลักการทางกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชาจะต้องส่งเรื่องไปทาง อัยการและให้ศาลเป็นผู้พิจารณา โดย พ.ต.ท.ทักษิณก็ สามารถที่จะใช้สิทธิ์ยื่นร้องคัดค้านต่ออัยการของกัมพูชาได้ ทั้งนี้เรายังไม่คาดหมายว่าทางกัมพูชาจะส่งตัวทันทีหรือไม่ จะรอดูท่าทีก่อน ถ้าหากเป็นไปตามกระบวนการนี้เราก็จะยอมรับ
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ทางกัมพูชาได้แสดงท่าทีก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณให้ ไทย นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่อยากพูดอะไรล่วงหน้า จะรอดูการดำเนินการของกัมพูชาหลังจากเรายื่นหนังสือก่อน หากกระบวนการดังกล่าวถูกตัดตอนและปฏิเสธที่จะทำตามคำขอของเราโดยทันที ทางเราก็จะพิจารณาหามาตรการตอบโต้หรือกดดันต่อไป ส่วนจะดำเนินการอย่างไรนั้น ยังไม่อยากจะพูดล่วงหน้าไปก่อน
ด้านนายชโลธร เผ่าวิบูลย์ อุปทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ กล่าวว่า บ้านพ.ต.ท.ทักษิณในกรุงพนมเปญนั้น ไม่ได้อยู่ตรงข้ามกับสถานทูตไทย อีกทั้งตนก็ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะอยู่ในกัมพูชาอีกกี่วัน ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ทางสถานทูตไม่สามารถส่งคนเข้าสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะมีการบรรยายให้นักเศรษฐศาสตร์กัมพูชา 300 คน ฟังได้ เพราะกัมพูชาไม่เชิญ